ซาก แต่ฮาลาลนี่คือคำอธิบาย belum

ข่าวอิสลามนิมในตันจุง - "บอก:" ฉันไม่พบในการเปิดเผยที่เปิดเผยให้ฉันทราบซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องห้ามสำหรับผู้ที่ต้องการกินมัน " (ซูเราะห์อัลอันอัม: 145)

จาก นักล่าระหว่างพ่อกับฟาง ศาสดาศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า

"มุสลิมที่ทำบาปที่สุดคือผู้ที่ถามเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างแล้วสิ่งนั้นก็ถูกห้ามเนื่องจากคำถามในขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ห้าม" (ชม. บุคอรีเลขที่ 7289 และมุสลิมเลขที่ 2358)

ข้อโต้แย้งข้างต้นแสดงให้เห็นว่าตราบใดที่ทุกสิ่งถูกต้องตามกฎหมายจนกว่าจะมีการโต้แย้งหลังจากเข้าใจหลักการนี้เราจะเข้าสู่การอภิปรายหลัก

อัลเลาะฮ์ตาอาลากล่าวว่า

"เกมทะเลและอาหาร (ที่มาจากทะเล) นั้นชอบด้วยกฎหมาย" (ซูเราะห์อัลไมดาห์: 96)

ความหมายของน้ำที่นี่ไม่เพียง แต่น้ำทะเลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสัตว์น้ำจืดด้วย เพราะคำจำกัดความของ "อัลบาห์รูอัลมาอา" "คือการรวบรวมน้ำจำนวนมาก ที่รักเมตตาฮัลลาห์ กล่าวว่า "ความหมายของน้ำในข้อข้างต้นคือน้ำใด ๆ ที่มีสัตว์น้ำให้ล่า (จับได้) ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำหรือสระน้ำ"

ในคำกล่าวที่มีชื่อเสียงของอิบนุอับบาสความหมายของ "นายทะเล" ในข้อข้างต้นคือสัตว์น้ำที่จับได้ทั้งตัวในขณะที่ "โทอามูฮู" หมายถึงซากของสัตว์น้ำ ความหมายของซากสัตว์น้ำคือพวกที่เพิ่งตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

จากอบูฮุรอยเราะห์รดิยัลลอฮุ 'อันฮูเขากล่าวว่า

"มีคนเคยถามท่านศาสดาศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม" โอ้ท่านร่อซูลของอัลลอฮ์ครั้งหนึ่งเราได้ขึ้นเรือและนำน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าเราทำการสรงกับเขาเราก็จะกระหายน้ำ อนุญาตให้เราทำการชำระล้างด้วยน้ำทะเลหรือไม่ " ท่านศาสดาศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมจึงตอบว่า "น้ำทะเลมีความบริสุทธิ์และซากสัตว์นั้นชอบด้วยกฎหมาย" (บรรยายโดย อาบูดาอูด เลขที่ 83, อันนาไซ หมายเลข 59, ที่ ತಿರ್ಮಿಧಿ เลขที่ 69 ชีคอัล - อัลบานี กล่าวว่าสุนัตนี้เป็นของแท้)

จาก อิบนุอุมัรดูหิยัลลอฮู 'อันฮูมา ท่านศาสดา ศ็อลลัลลอฮุ 'อะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

“ เราได้รับอนุญาตให้นำซากสัตว์สองตัวและเลือด ซากสัตว์ทั้งสองเป็นปลาและตั๊กแตน ในขณะที่สองเลือดคือตับและม้าม " (บรรยายโดย อิบันมาจาห์ เลขที่ 3314 ชีคอัล - อัลบานี กล่าวว่าสุนัตนี้เป็นของแท้)

การอภิปรายเกี่ยวกับสัตว์น้ำแบ่งออกเป็นสอง:

สัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำเท่านั้น
สัตว์ที่อาศัยอยู่ในสองอาณาจักร (ในน้ำและบนบก)

นักวิชาการไม่เห็นด้วยกับสัตว์น้ำออกเป็น 4 ความคิดเห็น:

สัตว์น้ำทุกชนิดชอบด้วยกฎหมาย นี่คือความเห็นของอุลามาอฺมาลิกียะห์และความเห็นของบรรดาศอฟียะฮฺอุลามาอฺซึ่งเหมาะสมกว่า
สัตว์น้ำทุกชนิดเป็นสัตว์ฮาลาลยกเว้นกบจระเข้และงู นี่คือความคิดเห็นของอุลามาฮัมบาลี พวกเขาพิจารณาว่าจระเข้เป็นสิ่งต้องห้ามเนื่องจากเป็นสัตว์ป่าและกินมนุษย์ ในขณะที่งูน้ำถูกห้ามเพราะ ฮอบบิท (น่าขยะแขยง) ในขณะเดียวกันกบเป็นสิ่งต้องห้ามเนื่องจากมีข้อห้ามในการฆ่าพวกมัน
สัตว์น้ำทุกชนิดห้ามกินยกเว้นปลา ปลาที่อยู่ในน้ำสามารถกินได้ยกเว้นปลาที่เพิ่งตายและลอยอยู่บนน้ำ ความคิดเห็นนี้ถูกเลือกโดย นักวิชาการฮานาฟียะห์ และอีกหนึ่งจาก ชาฟิอียะห์ ความเห็นนี้ห้ามกบปูและงูน้ำด้วยเพราะถือว่าเป็นสัตว์จำพวกโคบิท (น่าขยะแขยง)
ปลาเท่านั้นที่กินได้ ในขณะเดียวกันนอกจากปลาแล้วยังสามารถรับประทานได้หากมีความคล้ายคลึงกับสัตว์บกซึ่งได้รับอนุญาตให้รับประทานได้อย่างเท่าเทียมกันเช่นสัตว์น้ำเช่นวัวแพะและสิ่งที่คล้ายกัน ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรรับประทานสัตว์น้ำที่มีลักษณะคล้ายกับสัตว์บกเช่นหมูและสุนัข นี่เป็นหนึ่งในความคิดเห็นในโรงเรียน Syafi'i และหนึ่งในความคิดเห็นในโรงเรียนฮัมบาลี

อิบนุฮาญัรอัลอัซกอลานีราฮิมาฮุลเลาะห์ กล่าวว่า

“ ไม่มีข้อโต้แย้งในหมู่นักวิชาการว่าปลาเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีการโต้เถียงกันระหว่างพวกมันคือสัตว์น้ำที่มีรูปร่างเหมือนกับสัตว์บกเช่นมนุษย์สุนัขหมูและงู "

ผู้เขียน 'ป้าอุลมาบัด กล่าวว่า

“ สัตว์น้ำทุกชนิด ได้แก่ สัตว์ที่ไม่มีชีวิตยกเว้นในน้ำนั้นชอบด้วยกฎหมาย นี่คือความเห็นของอิหม่ามมาลิกอิหม่ามอัสซียาฟีอีและอิหม่ามอะหมัด นักวิชาการเหล่านี้กล่าวว่าซากสัตว์น้ำนั้นชอบด้วยกฎหมาย ในขณะเดียวกันอิหม่ามอาบูฮานิฟาห์มีความเห็นว่าสัตว์น้ำอื่นที่ไม่ใช่ปลาคือฮารอม "

ความคิดเห็นที่หนักแน่นที่สุดในประเด็นนี้คือความคิดเห็นแรกของนักวิชาการมาลิกียะห์กล่าวคือสัตว์ทุกชนิดที่อาศัยอยู่ในน้ำเป็นสิ่งที่ฮาลาล สาเหตุเนื่องมาจากลักษณะทั่วไปของข้อเสนอต่อไปนี้

"เกมทะเลและอาหาร (ที่มาจากทะเล) นั้นชอบด้วยกฎหมาย" (ซูเราะห์อัลไมดาห์: 96)

"น้ำทะเลศักดิ์สิทธิ์และซากสัตว์นั้นชอบด้วยกฎหมาย"

ในขณะเดียวกันนักวิชาการที่ห้ามปูงูและคนอื่น ๆ ก็โต้แย้งกับข้อนี้ว่า

"ห้ามมิให้พวกเจ้าที่เป็นคนขี้ขลาด (น่ารังเกียจ)” (ซูเราะห์อัลอัฟ: 157)

สำหรับนักวิชาการที่โต้แย้งว่าการห้ามใช้สัตว์น้ำที่มีลักษณะคล้ายกับสัตว์บกเช่นสุนัขและสุกรแล้ว qiyas (การเปรียบเทียบ) นี้ขัดแย้งกับหลักการทั่วไปของข้อสันนิษฐานของ อัลไมดาห์ ข้อ 96

หากสัตว์น้ำตายด้วยสาเหตุที่ชัดเจนตัวอย่างเช่นเนื่องจากถูกจับ (ยั่วยุ) ฆ่าหรือใส่ในสระน้ำแล้วตายกฎหมายนั้นชอบด้วยกฎหมายตาม ඉජ්මා '(ข้อตกลงของนักวิชาการ)

หากสัตว์น้ำตายโดยไม่มีสาเหตุชัดเจนจู่ ๆ ก็พบว่าลอยอยู่บนน้ำแล้วในทางกฎหมายมีการโต้แย้งทางความคิดเห็น ความเห็นของนักวิชาการส่วนใหญ่ ได้แก่ อิหม่ามมาลิกอิหม่ามอัสซียาฟีอีและอิหม่ามอะหมัดระบุว่ากฎหมายยังคงชอบด้วยกฎหมาย ขณะเดียวกันอิหม่ามอาบูฮานิฟาห์กล่าวว่าสัตว์ดังกล่าวไม่ฮาลาล

ข้อโต้แย้งจากความเห็นของนักวิชาการ (ส่วนใหญ่) คือคำพูดของอัลลอฮ์ตาอาลา

"และไม่มีทะเลสองแห่งที่เท่าเทียมกัน อันนี้รสจืดดื่มอร่อยส่วนอีกรสเค็มและขม และจากทะเลเหล่านี้แต่ละแห่งคุณสามารถกินเนื้อสดได้ " (สุราษฎร์เฟ ธ : 12)

นอกจากนี้ลักษณะทั่วไปของพระวจนะของอัลลอฮ์ตาอาลา

"เกมทะเลและอาหาร (ที่มาจากทะเล) นั้นชอบด้วยกฎหมาย" (ซูเราะห์อัลไมดาห์: 96)

ความหมายของ "โทอามูฮู" ในข้อนี้คือซากศพหมายถึงมันเพิ่งตายโดยไม่ทราบสาเหตุ กล่าวอีกนัยหนึ่งอิบนุอับบาสตีความว่า "โธอามูฮู" เป็นสัตว์น้ำที่ตายและถูกโยนไปที่ขอบ (ชายหาดหรือแม่น้ำ) การตีความนี้เป็นความเห็นของนักวิชาการส่วนใหญ่

นอกจากนี้ข้อโต้แย้งจากความเห็นของ จัมเฮิร์ คือสุนัตของ ญะบีร์บินอับดิลลาห์เรดิยัลลอฮู เขาพูดว่า,

“ ครั้งหนึ่งเราเคยต่อสู้กับกองทหาร คบา ธ (กินใบ) ซึ่งในเวลานั้น อบูอุบัยดะห์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากองทหาร จากนั้นเราหิวมาก ทันใดนั้นทะเลก็โยนปลาที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ปลานั้นเรียกว่าอัลอันบาร์ เรากินจากปลามาครึ่งเดือน จากนั้นอบูอุบัยดะห์ก็เอากระดูกส่วนหนึ่งออกมา จนกว่าผู้ขับขี่จะสามารถลอดใต้กระดูกนั้นได้ ได้แจ้งให้ฉันทราบว่า อบูอัซซูแบร์ ได้ยิน จาบีร์ พูด; อบูอุบัยดะห์ กล่าวว่า 'กินให้หมด! เมื่อเรามาถึงเมดินาเราบอกท่านศาสดาศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่า "กินเถอะมันเป็นริซกีที่อัลลอฮฺประทานให้ ถ้ายังขาดเหลืออะไรก็ให้เรา!” จึงนำมาให้เขากินบ้าง” (ชม. บุคอรีเลขที่ 4362)

อิบนุฮาญัรอัลอัซกอลานีราฮิมาฮุลเลาะห์ อธิบายว่า "จากสุนัตนี้เป็นที่ชัดเจนว่าซากสัตว์น้ำนั้นชอบด้วยกฎหมายไม่ว่าจะเป็นแบบนั้น (เช่นพบว่าลอยอยู่ในน้ำปากกา) หรือตายโดยการถูกล่า (จับหรือยั่วยุ) นี่คือความเห็นของนักวิชาการ จัมเฮิร์ (ส่วนใหญ่) ในขณะเดียวกัน นักวิชาการฮานาฟียะห์ ก็ยืนยันเรื่องนี้ "

ข้อโต้แย้งอีกประการหนึ่งเกี่ยวกับลักษณะฮาลาลของสัตว์น้ำที่ตายโดยไม่มีสาเหตุคือสุนัตของอิบนุอุมัร

“ เราได้รับอนุญาตให้นำซากสัตว์สองตัวและเลือด ซากสัตว์ทั้งสองเป็นปลาและตั๊กแตน " (ชม. อิบันมาจาห์เลขที่ 3314)

เมื่ออธิบายสุนัตข้างต้นที่มีอยู่ในหนังสือ බුල්ගුල් මාරම් අෂ් ෂානි กล่าวว่า

"สุนัตยังแสดงให้เห็นว่าซากปลานั้นถูกต้องตามกฎหมายภายใต้เงื่อนไขต่างๆไม่ว่าจะตายโดยไม่มีสาเหตุแล้วลอยหรือด้วยวิธีอื่นก็ตาม"

สำหรับข้อโต้แย้งของอูลามาที่ทำให้ยากต่อการกินสัตว์น้ำที่ลอยตายหรือพบที่ริม (ชายหาดหรือแม่น้ำ) โดยไม่ทราบสาเหตุการตายของพวกเขามีข้อโต้แย้งดังต่อไปนี้

จาก จาบีร์อิบันอับดิลลาห์ เขากล่าวว่าร่อซู้ลของอัลลอฮ์ความสงบและการละหมาดของอัลลอฮ์จงมีแด่เขา - กล่าวว่า "สิ่งที่ติดอยู่ในทะเลหรือสิ่งที่สัมผัสจากมันจากนั้นกินและสิ่งที่ตายในนั้นที่ลอยอยู่นั้นคุณไม่ควรกิน" (บรรยายโดย อาบูดาอูด เลขที่ 3815 และอิบันมาจาห์ เลขที่ 3247)

ผู้เขียน ซับลัสความนับถือ มูฮัมหมัดบินอิสมาอิลอัชโชนานีราฮิมาฮุลเลาะห์กล่าวว่า

"สุนัตของ จาบีร์ ข้างต้นเป็นสุนัต ใช่ (อ่อนแอ) ตามข้อตกลงของนักวิชาการของนักวิชาการสุนัต"

นาวาวีราหิมาฮุลเลาะห์กล่าวว่า

"ญะบีร์สุนัตเป็นสุนัตดิอีฟ (อ่อนแอ) ไม่อนุญาตให้โต้แย้งกับสุนัตนี้หากไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ แล้วถ้ามีข้อโต้แย้งที่เป็นปฏิปักษ์ล่ะ?!”

โดยพื้นฐานแล้วความเห็นของจัมเฮิร์พระ ถือว่าแข็งแกร่งกว่ากล่าวคือแม้ว่าสัตว์น้ำจะตายแล้วลอยอยู่ในน้ำหรือถูกลากเพื่อให้ลากไปยังแผ่นดินใหญ่ แต่ก็ยังถูกลงโทษตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามหากสัตว์ดังกล่าวลอยอยู่ในน้ำเป็นเวลานานและเกรงว่าจะก่อให้เกิดอันตรายเมื่อบริโภคก็ควรทิ้งไป

เราทุกคนรู้ดีว่าฉลามรวมถึงสัตว์ที่มีเขี้ยวและพวกมันใช้เขี้ยวในการล่าเหยื่อ หากมีคนถามเกี่ยวกับฉลามคำตอบนั้นถูกต้องตามกฎหมายเพราะมันกลับไปสู่ข้อโต้แย้งที่ให้เหตุผลกับสัตว์ทุกตัวในน้ำดังที่อัลลอฮ์ตาอาลาตรัสว่า

“ มันเป็นกฎหมายสำหรับคุณเกมทะเลและอาหารจากทะเล " (ซูเราะห์อัลไมดาห์: 96)

ตามที่อธิบายไว้ในคณะกรรมาธิการฟัตวาในซาอุดีอาระเบีย (คณะกรรมการถูกทำลายโดยกลุ่มผู้ไม่รู้หนังสือและกลุ่มผู้ไม่รู้หนังสือ')

ปลาทั้งหมดเป็นปลาฮาลาลทั้งฉลามและอื่น ๆ นี่เป็นไปตามลักษณะทั่วไปของพระวจนะของอัลเลาะห์ตาอาลา

"เกมทะเลและอาหารจากทะเลเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมายสำหรับคุณ" (ซูเราะห์อัลไมดาห์: 96)

เช่นเดียวกันกับคำพูดของท่านศาสดา ศ็อลลัลลอฮุ 'อะลัยฮิวะสัลลัม เกี่ยวกับน้ำทะเล,

"น้ำทะเลศักดิ์สิทธิ์และซากสัตว์นั้นชอบด้วยกฎหมาย" (ชม. ที่ තිර්මිදිเลขที่ 69, อันนาไซ เลขที่ 332, อาบูดาอูด เลขที่ 83, อิบันมาจาห์ เลขที่ 386, อาหมัด 2/361, มาลิก 43, แอดดาริมิ 729)