สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เติร์กออตโตมันลดลง: เศรษฐกิจที่อ่อนแอและมีหนี้สินจำนวนมาก

ข่าวอิสลามนิมในตันจุง - การลดลงของออตโตมันเติร์กเกิดขึ้นตั้งแต่รัชสมัยของสุลต่านมูฮัมหมัดที่ 3 (ค.ศ. 1594) อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นประเทศใหญ่และเข้มแข็งการลดลงไม่สามารถมองเห็นได้ในทันทีเพราะยังคงมีความพยายามของสุลต่านในการกอบกู้ประเทศ แต่สถานการณ์นี้รบกวนรูปแบบชีวิตของจักรวรรดิออตโตมันอย่างมาก

หลังจากนั้นการครองราชย์ของเขาก็ดำเนินต่อไปโดยสุลต่านออตโตมัน 19 คนจนกระทั่งมีการก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกี อย่างไรก็ตามพลังของสุลต่านไม่ได้ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งเหมือนสุลต่านคนก่อน ๆ

ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการล่าถอยของออตโตมันเติร์กคือเศรษฐกิจที่อ่อนแอและหนี้สะสมที่เกิดจากรัฐบาล

ความสำเร็จของโปรตุเกสและสเปนในการค้นหาวิธีการค้าโลกไปยังเอเชียเป็นจุดเริ่มต้นของการเพิ่มขึ้นของยุโรป พวกเขาประสบความสำเร็จในการยึดเส้นทางส่วนแบ่งตลาดและแหล่งวัตถุดิบสำหรับการค้าโลก

ความพยายามของพวกเขาเริ่มยึดมั่นมากขึ้นกับความสำเร็จในการล่าอาณานิคมและผูกขาดความมั่งคั่งของโลกอิสลามที่ร่ำรวยมาก สิ่งนี้ส่งผลให้เกิดความยากจนและความพ่ายแพ้ทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในโลกอิสลาม

เมื่อสุลต่านอับดุลอาซิซกลายเป็นสุลต่านแห่งออตโตมันเติร์กในปี 2404 สุลต่านคนก่อน ๆ ได้ทิ้งหนี้ของรัฐไว้ 15 ล้านปอนด์ ในปีเดียวกันนั้นหนี้ของประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 103 ล้านฟรังก์

ในปีพ. ศ. 2413-2423 อุษมานิยะห์ดอเลาะห์ ประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อเพื่อปกปิดว่าชาวเติร์กเติร์กต้องเป็นหนี้กับอังกฤษซึ่งอังกฤษต้องการให้จัดตั้งธนาคารของอังกฤษในอิสตันบูลและสถาบันกำกับดูแลทางการเงินของอังกฤษ

จักรวรรดิออตโตมันยังติดหนี้จำนวนมากให้กับยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส ออร์แลนโด และ Toynbee Ltd. เมื่อรัฐไม่สามารถชำระหนี้ได้ฝรั่งเศสจึงบังคับให้ชำระหนี้ทันที เมื่อสิ่งนี้ไม่สำเร็จชาวฝรั่งเศสก็โกรธในปีพ. ศ. 2444 และยึดเกาะมิดเลย์และมาลเตียน

สิ่งนี้กระตุ้นให้ประเทศในยุโรปหลายประเทศเข้ายึดเกาะสำคัญอื่น ๆ อีกหลายแห่งบังคับให้จักรวรรดิออตโตมันปฏิบัติตามแรงกดดันทางเศรษฐกิจทั้งหมด

จนถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 หนี้ของจักรวรรดิออตโตมันถึง 3900 ล้านฟรังก์ซึ่งส่วนใหญ่มาจากฝรั่งเศสเยอรมนีและอังกฤษ