เมื่อ พระเต้นรำ ถูกลักพาตัวโดยคอมมิวนิสต์

ข่าวอิสลามนิมในตันจุง - ในฐานะเด็กที่เกิดในยุค 90 แน่นอนว่าฉันได้รับเรื่องราวเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์และความเกี่ยวข้องกับขบวนการ 30 กันยายน 2508 ผ่านวรรณกรรมประวัติศาสตร์เท่านั้น คืนนี้เช้าตรู่วันที่ 1 ตุลาคม 2017 ฉันพยายามนึกถึงการอ่านเกี่ยวกับการที่กลุ่มคนที่แต่งตัวเต็มยศมาที่บ้านของนายพลฆ่าลากและสุดท้ายนำศพของลูกชายที่ดีที่สุดของประเทศไปไว้ในบ่อน้ำเก่าที่ลูบังบัวยา ซาดิสต์แค่ไหน!

นั่นเป็นเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับความโหดร้ายของ "ซ้าย" บนแม่ธรณี ไม่ต้องพูดถึงเรื่องราวของการสังหารหมู่คนต่างศาสนา เริ่มตั้งแต่นักบวชนักเรียนไปจนถึงโรงเรียนประจำอิสลามที่ยุ่งเหยิง มีอะไรเกิดขึ้นอีกในสหภาพโซเวียตในเวลานั้น? หรือคนในคิวบา? หรือ คนสาธารณรัฐจีน ภายใต้เหมาเจ๋อตงที่สังหารประชาชนหลายล้านคนเพื่อปฏิบัติตามอุดมการณ์ที่เขายึดมั่น?

ไม่เพียง แต่ในอินโดนีเซียเท่านั้นอุดมการณ์และการเคลื่อนไหวของคอมมิวนิสต์ยังได้ควบคุมเยเมน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาค จานูบ (เยเมนใต้รวมถึงจังหวัดเอเดนและ ฮาห์ราตาย) ในความเป็นจริงประวัติศาสตร์บันทึกว่าเยเมนใต้เป็นประเทศเดียว (ก่อนการรวมเป็นหนึ่งกับเยเมนเหนือ) ในคาบสมุทรอาหรับที่ครั้งหนึ่งเคยถูกควบคุมโดยคอมมิวนิสต์ซึ่งในเวลานั้นเป็นพรรคสังคมนิยมซึ่งในภาษาอาหรับเรียกว่าฮิซบ์อัลอิสติรากี

ภายใต้การปกครองของคอมมิวนิสต์ ฮาห์ราตาย อยู่ในความมืดมิดที่สุด เช่นเดียวกับในอินโดนีเซียเป้าหมายของพวกเขาคือกลุ่มอุลามาฮาบัยบและกลุ่มศาสนา ในความเป็นจริงมีนักวิชาการ ತಾರಿಮ್ บางคนที่ในเวลานั้นต้องรายงานโพสต์ของพวกเขาทุกวัน จนถึงตอนนี้เรื่องราวความโหดร้ายของค้อนและเคียวยังคงอยู่ในความทรงจำของคนในท้องถิ่น ในภาษาอาหรับพวกเขาเรียกมันว่าشيوعي (ಸ್ಯುಯುಯಿ ซึ่งแปลว่าคอมมิวนิสต์)

ในบรรดาฮาบัยบและอูลามาที่ตกเป็นเป้าหมายของการสังหารโหดคอมมิวนิสต์ในเวลานั้นคืออัลฮาบิบอัลอิหม่ามอัสซี - ไซอาฮิดมูฮัมหมัดบินฮาฟิดบินซาลิม (บิดาของอัลฮาบิบอาลีมาซีฮูร์และฮาบิบอุมัร) (ในภาพเขาอยู่ทางซ้ายของผู้อ่าน) ಅಲ್ ಹಬೀಬ್ ಅಬ್ದುಲ್ ಖಾದಿರ್ ಅಲ್ ಜುನೈದ್ นักเรียนคนหนึ่งของเขาเขียนเกี่ยวกับ ฮาบีมุฮัมมัด:

“ ตอนนั้นฮาบีบีมุฮัมมัดเป็นอาจารย์ที่ริบัททาริมอยู่แล้ว นักเรียนที่ได้รับการศึกษาจำนวนมากของเขากลายเป็นนักวิชาการที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้เขายังได้รับการลงทะเบียนเป็นสมาชิกของสภา ಖಾದಾ และสภาฟัตวาแห่งภูมิภาคทาริม และหลังจากที่ประธานมุฟตีในเวลานั้น ขับรถเสียงดีนาย เสียชีวิตเขาก็เป็นคนที่มาแทนที่เขาในฐานะประธานสภาฟัตวา

ขณะนั้นคอมมิวนิสต์เรืองอำนาจไม่หยุดหย่อน อย่างไรก็ตามฮาบีมุฮัมมัดไม่ต้องการที่จะเงียบ ด้วยความกระตือรือร้นทางศาสนาเขาจึงยังคงซื่อตรงและไม่ทำตามความปรารถนาของพวกเขา ในความเป็นจริงเพื่อนของเขาหลายคนแนะนำให้เขาอย่าเถียงมากเพราะกลัวความปลอดภัย แต่เขาไม่เคยสนใจ

จนกระทั่งวันหนึ่งในวันศุกร์ 29 ซุลฮิจจาห์ 1392 ฮิจเราะห์ ฮาบีมุฮัมมัด ออกจากการทำละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด สิ่งต้องห้าม (เพราะในเวลานั้นมัสยิด จามิกทาริม ถูกบังคับให้ปิดโดยพวกเขา) เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องรายงาน - ตามปกติในวันปกติ - ต่อผู้โพสต์ของพรรคคอมมิวนิสต์เขาทิ้งผ้าคลุมไหล่ (ผ้าคลุมไหล่) ไว้ที่มัสยิดแล้วเดินไปที่เสาทันที อย่างไรก็ตามเกิดอะไรขึ้น? อัลฮาบีมุฮัมมัดไม่กลับมา ในความเป็นจริงจนถึงวินาทีนี้เขาก็ยังไม่กลับมาอีกเลย”

นั่นคือภาพเหมือนของการสังหารโหดของคอมมิวนิสต์ใน ฮาดราตาย ฉันรู้สึกไม่ได้เลยว่า อัลฮาบิบอาลีมาซีฮูร์ และ อัลฮาบิบอุมัร เศร้าแค่ไหนในเวลานั้นหลังจากพบว่าพ่อของพวกเขาถูกลักพาตัวและไม่กลับมาบ้านอีกเลยจนถึงวินาทีนี้?! ในช่วงเวลาแห่งการรำลึกถึงโศกนาฏกรรมจนถึงตอนนี้ทุกๆวันที่ 29 ของ ซุลฮิจจาห์ดารุลโรงเรียนประจำอิสลามมัสธาฟาทาริม ได้จัดงานลากเรือเพื่อรำลึกถึงการพลีชีพของอัลฮาบิบมูฮัมหมัดบินฮาฟิดบินซาลิมซึ่งมีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคนจากทุกภูมิภาคแม้กระทั่งในประเทศ

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ฉันก็เริ่มเชื่อมั่นมากขึ้นว่าลัทธิคอมมิวนิสต์มีอยู่จริงและยังคงเป็นภัยพิบัติที่เลวร้ายสำหรับทุกคนรวมถึงบ้านเกิดเมืองนอนด้วย ในตอนท้ายของการขีดเขียนนี้ฉันแค่อยากจะบอกว่า "คอมมิวนิสต์เป็นพวกซาดิสม์นายพล!