ระวังเพราะการทำเช่นนี้ทำให้หลงทางโดยไม่รู้ตัว

ข่าวอิสลามนิมในตันจุง - ครั้งหนึ่งเมื่อครั้งที่ හුජ්ජතුල් ศาสนาอิสลาม, ไชค์ อิบัน ටයිමියා กำลังพูดคุยกับกลุ่มสาวก ภายใน - ขบวนการ คำสั่ง นอกรีต

"สิ่งที่คุณมีคืออิบันเทย์มิยะห์ ถ้าเรามาหาคุณคืออะห์ลุซซุนนะฮ จะ อำนาจของเราจะจางหายไป แต่ถ้าเราไปที่ทาร์ทาร์ - มองโกเลีย - ตาร์ตาร์ - อำนาจของเราจะแสดง

นักปราชญ์ท่องจำคัมภีร์กุรอานซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ของนิติศาสตร์สุนัตความเห็นและความรู้เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากนั้นก็ตอบ

"คุณรู้หรือไม่คำอุปมาระหว่างเราคุณกับ ตาร์ตาร์? เราเหมือนม้าขาวคุณก็เหมือนม้าลายในขณะที่ทาร์ทาร์เป็นเหมือนม้าดำ หากแถบสีดำเข้าสู่กลุ่มสีดำมันจะเป็นสีขาวและถ้ามันถูกรวมเข้ากับกลุ่มสีขาวมันก็จะเป็นสีดำ คุณยังมีแสงสว่างอยู่เล็กน้อย ถ้าคุณมาหาเรา - คนที่มีแสงสว่างมากที่สุดและซุนนะฮ - - คุณจะเห็นความมืดและดำ นั่นคือการเปรียบเทียบระหว่างเรากับคุณเรากับ ตาร์ตาร์ " (ชั้นเรียนของคนนอกศาสนาในลาทาซานโดยดร. ‘ช่วยอัลกอร์นี, 2003)

ดร. คาลิดบินอับดุลเราร์มานอัล - จูรย์ซีถามว่า "เส้นแบ่งระหว่างคูฟร์กับอิสลามคืออะไร? บุคคลที่เอ่ยถึงสองประโยคของชาฮาดะแล้วทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับเขาเป็นของกลุ่มมุสลิมแม้ว่าเขาจะยังคงอธิษฐานและอดอาหารอยู่ก็ตาม "

เขาตอบว่า "เส้นแบ่งระหว่างคูฟและอิสลามคือ: พูดประโยคทั้งสองของชาฮาดาอย่างถูกต้องและจริงใจและฝึกฝนความต้องการของทั้งสอง

ดังนั้นใครก็ตามที่รู้เรื่องนี้กับเขาเขาก็เป็นมุสลิมที่เชื่อ สำหรับคนหน้าซื่อใจคดเขาไม่ซื่อสัตย์และไม่จริงใจดังนั้นเขาจึงไม่ใช่ผู้เชื่อ ในทำนองเดียวกันผู้ที่พูดสองประโยคของ ลัทธิ และกระทำการปัดที่ขัดแย้งทั้งสองเช่นผู้ที่ขอความช่วยเหลือให้กับผู้ที่เสียชีวิตในช่วงเวลาของความยากลำบากหรือความสุขคนที่จัดลำดับความสำคัญในเชิงบวกกฎหมาย (ที่มนุษย์สร้างขึ้น) อัลเลาะห์คนที่เยาะเย้ยอัลกุรอานหรือผู้ที่เป็นของแท้จากซุนนะฮ of ของร่อซู้ลของอัลลอฮ อนัส นั้นเป็นคนนอกรีต

ไม่ใช่มุสลิมทุกคนที่เชื่อ บุคคลหนึ่งอาจเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามโดยอ่านชาฮาดะ แต่สถานะของเขาไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชื่อ อาจเป็นได้ว่าหัวใจของเขาถูกปฏิเสธเพื่อให้เขาเป็นสมาชิกของกลุ่มคน หลอกลวง; อาจเป็นได้ว่าหัวใจของเขาไม่ปฏิเสธ แต่เขาอยู่ในกลุ่มคนที่ทำผิดศีลธรรมมากมาย (ผู้จัดการ/ชั่วร้าย) ในความเป็นจริงอาจเป็นไปได้ว่าเขามีความเชื่อในตอนเช้า แต่ในตอนบ่ายเขาทำอะไรบางอย่างทั้งการฝึกหัวใจและการฝึกกายภาพที่ทำให้เขาออกจากศาสนาอิสลาม

มุสลิมไม่พอเพียงที่ได้รับการยอมรับ แต่ต้องมาพร้อมกับการกุศล / การกระทำ / การกระทำที่ศาสนาของเขาสั่ง ด้วยการทำเช่นนั้นเขาจึงกลายเป็นผู้เชื่อ

ผู้เชื่อเป็นรากฐานของคำว่าศรัทธาหมายถึงความไว้วางใจและความไว้วางใจซึ่งหมายความว่าผู้คนจะได้รับความไว้วางใจ ดังนั้นผู้เชื่อจึงเป็นคนที่พูดด้วยศรัทธาด้วยลิ้นของเขาเชื่อในหัวใจของเขาและกระทำโดยการกระทำ

อัลเลาะห์ มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ กล่าวว่า

"โอ้บรรดาผู้ที่ศรัทธาจงศรัทธาต่ออัลลอฮ และ และร่อซูลของพระองค์และในหนังสือของอัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาแก่ร่อซู้ลของพระองค์และหนังสือของอัลลอฮ์ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ ผู้ใดที่ปฏิเสธศรัทธาในอัลลอฮ์มลาอิกะฮ หนังสือ ของเขาหนังสือของเขาอัครสาวกของพระองค์และอีกหลายวันหลังจากนั้นแน่นอนผู้นั้นก็หลงทางไปไกลถึงที่สุด (จดหมายกุรอาน:ผู้หญิง ': 136)

ආචාර්ය. හවාලි සෆාර් และ ෂෙයික් සුලෙයිමාන් නෂීර් උල්වාන් เขียนหนังสือชื่อ "අල්-ඉමාන් ව නවාකිදුහු และ අට්-ටිබියන් සිරාර් නවාකිහිල් ඉමාන්" หนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์โดย อื่น ๆ การเผยแพร่ แปลว่า "การละทิ้งความเชื่อโดยไม่ทราบว่าเป็นไปได้อย่างไร"

จากกรณีทั้งสองมีกรณีซึ่งหากทำ - แม้เพียงแค่คำพูด - สามารถพุ่งมุสลิมเข้าสู่สถานะ 'หมดสติหมดสติ' แม้ว่าการละทิ้งความเชื่อทำให้เกิดการยกเลิกศรัทธาและศาสนาอิสลามของเรา

ෂෙයික් අබ්දුල් මජිඩ් අස් සන්දානි กล่าวถึง 4 ปัจจัยที่ยกเลิกศรัทธา (නවාකිදුල් ඊමාන්) ในหมู่พวกเขาคือ พรรณี ผู้กระทำผิดเรียกว่า หลอกลวง พรรณี เป็นเงื่อนไขที่แตกต่างระหว่างสิ่งที่เชื่อและสิ่งที่ปรากฏในการกระทำ

มี หลอกลวง หลายประเภทในหมู่พวกเขา

1. ปฏิเสธที่จะตัดสินกับ ชาริ แม้ว่าพวกเขาดูเหมือนจะเป็นมุสลิม (หมอบหมอบอยู่ก็ตาม) แต่พวกเขาไม่ต้องการถูกลงโทษด้วยชาริอะฮ์ของอัลลอฮ.

อัลเลาะห์ มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ กล่าวว่า

"เมื่อพูดกับแบรนด์a: ให้คุณ (ส่ง) กฎหมายที่อัลลอได้ส่งลงและกฎหมายของอัครสาวก! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณเห็นคนหน้าซื่อใจคดปิดกั้นมนุษย์ด้วยพลังของคุณ (ใกล้) " (คัมภีร์อัลกุรอาน: นิสา ': 61)

2. รับผู้ที่ไม่เชื่อเป็นผู้ปกครอง

ลักษณะของคนหน้าซื่อใจคดทำให้คนนอกศาสนาเป็นผู้ปกป้องและผู้ปกป้องและเสริมกำลังในชีวิตประจำวัน พวกเขาออกจากคนที่เชื่อและมีแนวโน้มมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะไม่เชื่อ

อัลเลาะห์กล่าวว่า: "บอกคนหน้าซื่อใจคดว่าพวกเขาจะได้รับความเจ็บปวดทรมาน (นั่นคือ) ผู้ที่ไม่เชื่อเข้ามาช่วยเพื่อนโดยออกจากผู้ศรัทธา" (คัมภีร์อัลกุรอาน: นิสา ': 138-139)

3. ผู้เชื่อที่ไม่เป็นมิตร

เนื่องจากคนหน้าซื่อใจคดอยู่ใกล้กับผู้ที่ไม่เชื่อจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทัศนคติที่เกิดขึ้นในตอนนั้นคือการทำให้ผู้เชื่อเป็นศัตรูกัน อัลเลาะห์กล่าวว่า

"คุณจะไม่ได้รับคนที่เชื่อในอัลลอและวันสุดท้ายรักกันกับผู้ที่ต่อต้านอัลลอและ Messenger ของเขาแม้ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นพ่อลูกหลานหรือญาติพี่น้องหรือครอบครัวของพวกเขา" (อัล - ให้ศีล: 22)

เกิดขึ้นมากมายรอบตัวเราด้วยใบหน้ามุสลิม แต่แทนที่จะเป็นศัตรูกับผู้ศรัทธาและกฎหมายอิสลาม ใบหน้าของศาสนาอิสลาม แต่ความคิดเห็นและข้อความที่หลากหลายเป็นภาระของศาสนา

เขาอ้างว่าเป็นมุสลิมแทนที่จะเป็นผู้พิทักษ์ผู้นำคาฟีร์หรือผู้นำที่ได้รับการสนับสนุนและขับเคลื่อนโดยผู้ไม่เชื่ออย่างชัดเจน ในความเป็นจริงเขากลายเป็นผู้พิทักษ์หลักที่ไม่เป็นมิตรกับผู้ศรัทธาและแม้แต่นักวิชาการ หากเสนออัลกุรอานและคำแนะนำของนักวิชาการพวกเขาปฏิเสธและมีข้อแก้ตัวที่หลากหลาย "อย่าผสมกับการเมืองและศาสนา" "สัญลักษณ์มีความสำคัญ แต่เนื้อหานั้นสำคัญกว่าสัญลักษณ์" หากสัญลักษณ์ไม่สำคัญทำไมศาสดาจึงห้ามการใช้ระฆังและแตรและแทนที่พวกเขาเป็น เรียกร้องให้สวดมนต์

มุสลิมรุ่นนี้มีแนวโน้มที่จะหน้าซื่อใจคดเพราะรุ่นนี้เป็นอันตรายมากเพราะตัวตนของมันไม่ชัดเจน ไม่เหมือนกับคนนอกศาสนาที่ต่อต้านศาสนาอิสลามอย่างเปิดเผย

นานก่อนหน้านี้ 1,400 ปีที่แล้ว ผู้ส่งสารของอัลเลาะห์ขอให้พระเจ้าคุ้มครองเขาและให้เขาสงบสุข กล่าวว่า

"พร้อมสำหรับการกุศลก่อนที่จะมีการใส่ร้ายเช่นชุดดำมืดในตอนเช้าชายผู้ศรัทธาและในตอนบ่ายได้ปฏิเสธศรัทธาและในตอนบ่ายความเชื่อและตอนเช้ากลายเป็นคนนอกศาสนาเขาขายศาสนาของเขาให้เป็นที่พอใจของโลก" (อาห์หมัดสุนัต, จำนวน. 8493)

อัลเลาะห์ มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ พูดในอัลกุรอาน

"แน่นอนศาสนา (ความสุข) ในสายตาของอัลเลาะห์เป็นเพียงศาสนาอิสลาม" (จดหมายอาลีอิมราน: 19)

"ผู้ใดก็ตามที่แสวงหาศาสนาอื่นนอกจากอิสลามแล้วศาสนานั้นก็จะไม่ถูกรับจากเขาและเขาจะอยู่ในปรโลกรวมทั้งผู้ที่ด้อยโอกาส" (จดหมายอาลีอิมราน: 85)